เมื่อ Microsoft Teams มีอาการค้าง ทำงานช้า โหลดข้อมูลไม่ขึ้น หรือแสดงข้อมูลผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง สาเหตุบ่อยครั้งเกิดจากไฟล์แคช (Cache) หรือข้อมูลผู้ใช้ที่เสียหายหรือล้าสมัย การล้างแคชและข้อมูลเหล่านี้จะช่วยรีเซ็ตการทำงานของแอปพลิเคชัน และแก้ไขปัญหาที่เกิดจากข้อมูลที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูประสิทธิภาพของ Teams ให้กลับมาเป็นปกติได้
การล้างแคชของ Microsoft Teams เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่แนะนำอย่างยิ่ง เมื่อพบปัญหาด้านประสิทธิภาพหรือการแสดงผล
ขั้นตอนการล้างแคชจะแตกต่างกันไปเล็กน้อยขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการของคุณ
สำหรับ Windows: ปิด Microsoft Teams ให้สนิทก่อน (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีไอคอน Teams อยู่ใน System Tray หรือใน Task Manager)
จากนั้นเปิด Run (กดปุ่ม Windows + R) แล้วพิมพ์ %appdata%\Microsoft\Teams แล้วกด Enter
คุณจะเห็นโฟลเดอร์ที่เก็บข้อมูลแคชของ Teams อยู่ ลบไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดภายในโฟลเดอร์นั้นออก (ยกเว้นโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่า "Backgrounds" หากคุณต้องการเก็บพื้นหลังที่กำหนดเองไว้)
โฟลเดอร์สำคัญที่ควรลบได้แก่ "Cache", "IndexedDB", "GPUCache", "Local Storage", "tmp"
สำหรับ macOS: ปิด Microsoft Teams ให้สนิท เปิด Finder ไปที่ Go > Go to Folder... แล้วพิมพ์ ~/Library/Application Support/Microsoft/Teams
ลบไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดในนั้นเช่นกัน
สำหรับเวอร์ชัน Web (เว็บเบราว์เซอร์): หากคุณใช้ Teams ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ลองล้างแคชและคุกกี้ของเว็บเบราว์เซอร์นั้น
หลังจากลบแคชแล้ว ให้ รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ของคุณ และลองเปิด Microsoft Teams ขึ้นมาใหม่
เมื่อเปิด Teams ขึ้นมาใหม่ จะใช้เวลาโหลดข้อมูลเริ่มต้นนานขึ้นเล็กน้อย เพราะต้องดึงข้อมูลใหม่ทั้งหมด
การล้างแคชจะช่วยให้ Teams เริ่มต้นด้วยข้อมูลที่สะอาดและไม่มีข้อผิดพลาด ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การซิงค์ข้อมูลไม่ได้, การแสดงผลเพี้ยน, หรืออาการค้างบ่อยครั้ง
หากปัญหายังคงอยู่หลังจากล้างแคชและข้อมูลผู้ใช้แล้ว อาจจำเป็นต้องพิจารณาขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการหรือการติดตั้งโปรแกรมต่อไป.