หากคุณได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามแนวทางข้างต้นทั้งหมดแล้ว แต่เครื่องพิมพ์/สแกนเนอร์ของคุณยังคงไม่สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องพึ่งพาการรีเซ็ตที่ลึกขึ้น หรือพิจารณาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ การตัดสินใจที่ถูกต้องในขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
ลองทำการ รีเซ็ตเครื่องพิมพ์/สแกนเนอร์เป็นการตั้งค่าจากโรงงาน (Factory Reset) การทำเช่นนี้จะลบการตั้งค่าเครือข่ายและข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมดออกจากเครื่องพิมพ์ และคืนค่ากลับสู่สถานะเดิมเหมือนตอนที่ซื้อมาใหม่
วิธีการรีเซ็ตการตั้งค่าจากโรงงานจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและยี่ห้อ ควรดูคู่มือผู้ใช้ของเครื่องพิมพ์คุณเพื่อดูขั้นตอนที่ถูกต้อง
หลังจากรีเซ็ตแล้ว คุณจะต้องทำการ ติดตั้งเครื่องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด อีกครั้ง รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายและติดตั้งไดรเวอร์
ตรวจสอบว่ามี เฟิร์มแวร์ (Firmware) ล่าสุด สำหรับเครื่องพิมพ์/สแกนเนอร์ของคุณหรือไม่ โดยไปที่เว็บไซต์สนับสนุนของผู้ผลิต เฟิร์มแวร์ที่อัปเดตแล้วอาจแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพได้
หากเครื่องพิมพ์/สแกนเนอร์มีหน้าจอแสดงผล ให้ตรวจสอบ รหัสข้อผิดพลาด (Error Code) ที่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และนำรหัสเหล่านั้นไปค้นหาในเว็บไซต์ของผู้ผลิต หรือค้นหาใน Search Engine เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขเฉพาะ
ลอง ลบเครื่องพิมพ์ออกจากคอมพิวเตอร์ ของคุณอย่างสมบูรณ์ (Remove Device) จากนั้นทำการ ติดตั้งเครื่องพิมพ์ใหม่อีกครั้ง โดยใช้ไดรเวอร์ล่าสุดและวิธีการติดตั้งที่แนะนำจากผู้ผลิต
หากปัญหาดูซับซ้อนเกินกว่าที่คุณจะจัดการเองได้ หรือหากมีข้อบ่งชี้ว่าฮาร์ดแวร์ภายในเสียหาย เช่น มีเสียงผิดปกติ เสียงดังจากการทำงานที่เคยมี หรือมีการเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนที่ผิดปกติ
ควรพิจารณา ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของผู้ผลิต เครื่องพิมพ์/สแกนเนอร์ของคุณโดยตรง พวกเขามักจะมีทีมงานที่สามารถให้คำแนะนำทางเทคนิค หรือนัดหมายให้ช่างมาตรวจสอบได้
หรือนำเครื่องไปที่ ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต หรือร้านซ่อมคอมพิวเตอร์/เครื่องพิมพ์ที่มีความน่าเชื่อถือ
การไม่พยายามซ่อมแซมส่วนประกอบภายในด้วยตนเองหากไม่มีความรู้และประสบการณ์ที่เพียงพอ จะช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมและรับประกันว่าอุปกรณ์ของคุณจะได้รับการซ่อมแซมอย่างถูกต้อง.