Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมที่ใช้ทรัพยากรระบบสูงมาก โดยเฉพาะหน่วยความจำ (RAM) และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล การที่โปรแกรมทำงานช้า ค้างบ่อย หรือแสดงข้อความ "Not enough RAM" บ่งชี้ว่าอาจมีปัญหาในการจัดการทรัพยากร การปรับแต่งการตั้งค่าประสิทธิภาพภายใน Photoshop ให้เหมาะสมกับสเปกคอมพิวเตอร์ของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้โปรแกรมทำงานได้อย่างราบรื่น
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบ หน่วยความจำ (RAM) ที่จัดสรรให้ Photoshop โดยไปที่ Edit (แก้ไข) > Preferences (ค่ากำหนด) > Performance (ประสิทธิภาพ)
ในส่วน "Memory Usage" (การใช้หน่วยความจำ) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่าให้ Photoshop ใช้ RAM ในช่วง 70-80% ของ RAM ทั้งหมด ที่คอมพิวเตอร์ของคุณมีอยู่ ไม่ควรตั้งค่าน้อยเกินไป เพราะจะทำให้ Photoshop ทำงานช้า แต่ก็ไม่ควรตั้งค่ามากเกินไปจนระบบปฏิบัติการไม่มี RAM เหลือใช้
ตรวจสอบว่าคุณมี RAM เพียงพอ สำหรับการทำงานกับ Photoshop หรือไม่ สำหรับงานกราฟิกที่ซับซ้อน แนะนำให้มี RAM อย่างน้อย 16GB หรือมากกว่า
ตรวจสอบส่วน "Scratch Disks" (ดิสก์สำหรับพักข้อมูล) ในหน้าต่าง Performance เดียวกัน
Photoshop ใช้ Scratch Disks เป็นหน่วยความจำเสมือนเมื่อ RAM ไม่เพียงพอ ควรเลือกไดรฟ์ที่มีพื้นที่ว่างเหลือเยอะที่สุด และเป็นไดรฟ์ที่เร็วที่สุด (เช่น SSD) เป็น Scratch Disk หลัก
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไดรฟ์ที่คุณเลือกเป็น Scratch Disk มี พื้นที่ว่างเหลืออย่างน้อย 20-30 GB หรือมากกว่านั้น
หากพื้นที่ Scratch Disk เต็ม Photoshop จะทำงานผิดพลาดและแสดงข้อความแจ้งเตือนได้
ตรวจสอบว่าคุณมี พื้นที่ว่างบนฮาร์ดไดรฟ์ โดยรวมเพียงพอหรือไม่ Photoshop สร้างไฟล์ชั่วคราวจำนวนมากระหว่างการทำงาน
เข้าไปที่ Task Manager (สำหรับ Windows) หรือ Activity Monitor (สำหรับ macOS) เพื่อดูว่ามี โปรแกรมอื่นที่ใช้ RAM หรือ CPU มากผิดปกติ ทำงานอยู่เบื้องหลังหรือไม่
หากมี ให้ปิดโปรแกรมเหล่านั้นเพื่อเพิ่มทรัพยากรให้ Photoshop
ตรวจสอบว่า ไดรเวอร์การ์ดจอ (Graphics Driver) ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด และ Photoshop ตรวจพบ GPU ของคุณแล้ว โดยไปที่ Preferences > Performance > Graphics Processor Settings
การปรับแต่งการตั้งค่าเหล่านี้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ Photoshop สามารถใช้ทรัพยากรระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดอาการค้าง และเพิ่มความเร็วในการทำงานได้อย่างมาก.