เมื่อคุณพบปัญหาในการใช้งานโปรแกรม Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, PowerPoint, หรือ Outlook ที่มีอาการค้าง ทำงานช้า เปิดไม่ได้ หรือฟังก์ชันบางอย่างไม่ตอบสนอง สิ่งแรกที่ควรดำเนินการคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งชุดโปรแกรม Office และระบบปฏิบัติการของคุณได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว การอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำจะช่วยแก้ไขบั๊กข้อผิดพลาด ปรับปรุงประสิทธิภาพ และเพิ่มความเข้ากันได้กับระบบและอุปกรณ์ใหม่ๆ ซึ่งบ่อยครั้งเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่า Microsoft Office ของคุณได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด แล้วหรือไม่
สำหรับ Office 365/2019/2016 คุณสามารถทำได้โดยเปิดโปรแกรม Office ใดก็ได้ เช่น Word หรือ Excel จากนั้นไปที่ File > Account (หรือ Office Account) > Update Options > Update Now
หากมีอัปเดต โปรแกรมจะดาวน์โหลดและติดตั้งให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่
การติดตั้งอัปเดตจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่ผู้พัฒนาค้นพบและแก้ไขไปแล้ว
นอกจาก Office แล้ว คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ macOS ของคุณก็ได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วย
สำหรับ Windows ให้ไปที่ Settings > Update & Security > Windows Update > Check for updates
สำหรับ macOS ให้ไปที่ System Settings (หรือ System Preferences) > General > Software Update
การอัปเดตระบบปฏิบัติการก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะโปรแกรม Office ต้องพึ่งพิงส่วนประกอบบางอย่างของระบบปฏิบัติการในการทำงาน
หลังจากติดตั้งอัปเดตทั้ง Office และระบบปฏิบัติการแล้ว สิ่งสำคัญคือการ รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ ของคุณแบบสมบูรณ์
การรีสตาร์ทจะช่วยล้างหน่วยความจำชั่วคราวและรีเซ็ตการทำงานของโปรแกรมทั้งหมด รวมถึงไดรเวอร์ต่างๆ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากข้อผิดพลาดชั่วคราวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ควรเลือกแค่ Sleep แต่ควรเลือก "Restart" หรือ "Shut Down" แล้วเปิดเครื่องใหม่
หากปัญหาเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน การรีสตาร์ทมักเป็นวิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดและได้ผลมากที่สุด
การทำตามขั้นตอนนี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณหลีกเลิกปัญหาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตและประสิทธิภาพได้อย่างมีนัยสำคัญ.